3 Layout ยอดฮิต ร้านขายยาสุดปัง เสริมลุค เพิ่มยอดขาย
Layout หรือการจัดวางตู้ชั้นวางสินค้า หรือการกำหนดการเดินภายในร้านค้า เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งในร้านค้าทุกๆประเภท ไม่ว่าจะเป็นร้านขนาดเล็ก ซุปเปอร์มาเก็ต หรือศูนย์การค้าขนาดใหญ่ ร้านขายยาก็เป็นร้านประเภทหนึ่งที่ลูกค้าต้องเดินเข้ามาเพื่อเลือกซื้อยา หรือสินค้าอื่นๆภายในร้าน Layout หรือผังภายในร้านจึงสำคัญเป็นอย่างมาก และเป็นส่วนสำคัญอีกปัจจัยหนึ่งที่ช่วยทำให้เพิ่มยอดภายในร้านได้
Layout ที่ดีเป็นอย่างไร?
- ชั้นวางสินค้า (ยาชนิดต่างๆ) ส่งเสริมให้มองสินค้าได้ง่าย เช่น หากบรรจุภัณฑืของสินค้ามีสีฉูดฉาด ชั้นหรือตู้วางสินค้าควรมีสีอ่อน เพื่อให้มองหาสินค้าได้ง่าย
- ดีไซน์ของชั้นวางสินค้าเหมาะสมกับบรรจุภัณฑ์ที่ต่างประเภทกัน เช่น ยาบางชนิดเป็นขวด เป็นซอง หรือ แบบแขวน ชั้นวางก็ต้องมีหลายหลายเพื่อความเหมาะสม
- การจัดวางสินค้าให้เหมาะสม เช่น การวางสินค้าประเภทเดียวกันให้อยู่ด้วยกัน หรือยาที่ใช้ต่อเนื่องกัน ควรจัดวางต่อเนื่องกัน ลูกค้าก็จะสามารถหาสินค้าเจอได้ง่าย และเพิ่มโอกาสทางการขายสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกันอีกด้วย
- การจัดวางสินค้าให้เป็นระเบียบ สินค้าภายในร้านควรวางอย่างเป็นระเบียบสม่ำเสมอ ไม่มีสินค้าที่ล้ม หรือวางสลับตำแหน่งภายในร้าน นอกจากการจัดเรียงให้สวยงามแล้ว เภสัชกร หรือผู้ช่วย ควรเติมสินค้าให้เต็มชั้นเสมอ ก็จะทำให้ชั้นวางสินค้าดูเป็นระเบียบ สินค้าครบ น่าเลือกซื้อมากยิ่งขึ้น
- ป้ายราคาและ ป้ายโปรโมชั่น ควรติดอย่างเป็นระเบียบ และขัดเจน ยาและสินค้าทุกชิ้นภายในร้านควรมีป้ายราคาชัดเจน หากมีสินค้าลดราคา ป้ายโปรโมชั่นก็ควรโดดเด่น มองเห็นง่าย และวางถูกตำแหน่งสินค้าเสมอ ทั้งนี้ นอกจากที่จะเพิ่มยอดขายได้แล้ว ยังลดการสื่อสารโดยไม่จำเป็นระหว่างเภสัชกรและคนไข้อีกด้วย
Layout ยอดฮิตแบ่งออกเป็นกี่ประเภทบ้าง ?
Layout และขนาดของร้านขายยามีความสัมพันธ์กันเป็นอย่างยิ่ง Layout ที่ดีควรคำนึงถึงขนาดเพื่อความเหมาะสม ประเภทของ Layout เลยจะถูกแบ่งออกเป็น 3 แบบหลักๆ ตามขนาดยอดนิยมของร้านขายยา ดังนี้
1.Layout แบบปิด (Closing Area)
เหมาะสำหรับพื้นที่ร้านยาที่มีขนาดค่อนข้างเล็ก ประมาณ 8-19 ตรม. ProCabin จะเรียกขนาดร้านยานี้ว่าขนาด S
Layout ของร้านยาไซส์ S จะมีพื้นที่ในการเดินได้น้อย จะมีเคาร์เตอร์ฝั่งบริการโดยเภสัชกรเป็นหลัก ร้านขายยาขนาดนี้ส่วนมากจะอยู่บริเวณสถานีรถไฟฟ้า หรือห้างที่ให้พื้นที่ขนาดเล็ก ที่ลูกค้าเปฺดประตูร้านมาก็จะพบกับเภสัชกรเลย ร้านยาขนาด S บางร้านอาจใช้ระบบปิดจำกัดการเดินของลูกค้า และอาจมีเพียงหน้าต่างกั้นเพื่อให้ลูกค้าสั่งยาจากเภสัชกรโดยตรงเท่านั้น
2.Layout ที่มีพื้นที่บริการตนเอง แต่ไม่มี Gondola (ชั้นวางของตามทางเดิน)
เหมาะสำหรับพื้นที่ร้านยาที่มีขนาดกลาง ประมาณ 20-39ตรม. ProCabin จะเรียกขนาดร้านยานี้ว่าขนาด M
Layout ของร้านยาไซส์ M จะมีพื้นที่ในการเดินมากขึ้น มีพื้นที่บริการโดยเภสัช และพื้นที่บริการตนเองเพิ่มขึ้นมา แต่จะยังไม่มีพื้นที่เหลือเพียงพอในการวาง Gondola (ชั้นวางของตามทางเดิน) เพิ่ม Layout แบบนี้เป็นที่นิยมค่อนข้างมาก เพราะร้านขายยยาส่วนใหญ่ในประเทศไทยจะมีขนาดยอดนิยมเป็นขนาด 4×8 เมตร เป็นหน้าแคบและแนวลึก
3.Layout ที่มีพื้นที่บริการตนเอง และมี Gondola (ชั้นวางของตามทางเดิน)
เหมาะสำหรับพื้นที่ร้านยาที่มีขนาดใหญ่ ประมาณ 40 ตรม.ขึ้นไป ProCabin จะเรียกขนาดร้านยานี้ว่าขนาด L
Layout ของร้านยาไซส์ L จะมีพื้นที่ในการเดินค่อยข้างเยอะ มีพื้นที่บริการโดยเภสัช และพื้นที่บริการตนเองเพิ่มขึ้นมา อีกทั้งยังมีพื้นที่เหลือเพียงพอในการวาง Gondola (ชั้นวางของตามทางเดิน) เพิ่มอีกด้วย Gondola ก็จะช่วยในการวางสินค้าได้เยอะ และหลากหลายมากขึ้น ทำให้ช่วยบริการการจัดระเบียบการสินค้าได้ง่าย ละสวยงามมากขึ้น Layout แบบนี้เป็นที่นิยมมากเช่นกัน จะเห็นได้ในร้านยาขนาดใหญ่ในห้างสรรพสินค้า หรือร้าน Stand Alone ที่มีขนาด 8×8 เมตร
Layout ร้านขายยาเป็นส่วนสำคัญในการดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาเลือกซื้อสินค้า หรือยาภายในร้านขายยา นอกจากชั้นวางสินค้าจะต้องโดดเด่น สวย สะดุดตา การจัดวางสินค้าก็ต้องวางให้เหมาะสม เป็นระเบียบ สวยงามอยู่เสมอ
Layout ที่ดี ต้องเดินเลือกสินค้าได้ง่าย และสะดวก ป้ายราคา ป้ายบอกข้อมูลต้องชัดเจน
ร้านขายยาในปัจจุบันมีการแข่งขัยที่สูงมากขึ้น เพราะสินค้าที่ขายเหมือน หรือใกล้เคัยงกันเป็นอย่างมาก แต่หากร้านขายยาของเราสวย โดดเด่น น่าเลือกซื้อ และเภสัชกรก็ให้ข้อมูลที่ดีกับลูกค้า ร้านขายยาของเราก็จะอยู่ได้อย่างยั่งยืน และเป็นที่รักของคนไข้หรือลูกค้าร้านขายยาแน่นอน!
สนใจติดต่อส่งข้อมูลร้านมารับคำปรึกษา หรือสอบถามรายละเอียดสั่งซื้อสินค้าและบริการจาก ProCabin ติดต่อได้ที่
Line OA: @procabin หรือคลิก https://lin.ee/LlnbDu8 โทร 092-369-2523
สนใจเพิ่มเติม คลิก!!